เรื่องน่ารู้ของคุกกี้

เรื่องน่ารู้ของคุกกี้

          คุกกี้ หรือในบางครั้งเราอาจจะเรียกว่า บิสกิต เป็นขนมอบที่ทำได้ง่าย และพบเห็นได้มากมายตามท้องตลาด และเป็นที่นิยมรับประทานกัน เรามาทำความรู้จักกับเรื่องของคุกกี้เบื้องต้นกันนะคะ

ชนิดและประเภทของคุกกี้

          คุกกี้มีอยู่หลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับรูปร่าง ชนิดและลักษณะของแป้งที่นำมาใช้ในการทำคุกกี้นั้นๆ ซึ่งเราสามารถแบ่งคุกกี้ออกได้ดังนี้ค่ะ

• คุกกี้หยอด ( Drop Cookies ) ลักษณะของเนื้อแป้งที่ใช้ทำจะมีความอ่อนพอประมาณ สามารถหยอดลงบนถาดโดยใช้ช้อนหรือบีบออกจากถุงบีบได้ค่ะ
  

• คุกกี้โรล ( Rolled Cookies ) ลักษณะของแป้งที่ใช้ทำคุกกี้แบบนี้จะเหนียวและแห้งกว่าแบบแรกค่ะ และแป้งจะต้องมีความแข็งมากพอที่จะคลึงได้โดยไม่เหนียวติดพื้น สามารถตัดให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ หรือจะโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง หรือตกแต่งอื่นๆตามต้องการ
  

• คุกกี้แท่ง ( Bar Cookies ) แป้งที่ทำคุกกี้แบบนี้จะมีลักษณะเหลว เพื่อเทลงในถาด อบ และตัดเป็นรูปร่างต่างๆตามต้องการ บางชนิดอาจจะมีเนื้อเหมือนเค้ก และบางชนิดอาจจะกรอบก็ได้ค่ะ
  

• คุกกี้กด ( Pressed Cookies ) คุกกี้ชนิดนี้ทำโดยการกดส่วนผสมของแป้งจากกระบอกกดกดคุกกี้ให้ออกมาเป็นรูปร่างต่าง ๆ เนื้อแป้งของคุกกี้ชนิดนี้จะมีไขมันสูง และเนื้อแป้งค่อนข้างอ่อน
  

• คุกกี้ปั้น ( Mold Cookies ) คุกกี้ชนิดนี้มีส่วนประกอบของไขมันสูง ทำให้แป้งไม่เหนียวและทำให้คุกกี้นุ่มขึ้น เราจะใช้การปั้นแป้งให้เป็นรูปทรงกลม เป็นแท่ง แล้วจึงกดให้แบน
  

• คุกกี้แช่เย็น ( Refrigerator Cookies ) ลักษณะของแป้งจะต้องมีความแข็งพอที่จะปั้นเป็นท่อนได้ แล้วห่อด้วยกระดาษไขหรือผ้า และนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อให้เนื้อแป้งมีความแข็งขึ้น หลังจากนั้นจึงนำมาตัดเป็นชิ้นๆ
  

การผสมแป้งที่จะทำคุกกี้

• การผสมแป้งเพื่อทำคุกกี้ จะเริ่มด้วยการตีเนยหรือมาการีนกับน้ำตาลก่อน การตีให้เข้ากันอย่างทั่วถึง จะทำให้คุกกี้ที่ได้มีเนื้อดี
• น้ำตาลที่ใช้ต้องไม่หยาบเกินไป เพราะจะละลายยากเวลาผสมกับส่วนผสมอื่น ซึ่งส่วนผสมที่เป็นของเหลวมีน้อย
  
• การเติมส่วนผสมที่เป็นของแห้ง รวมทั้งแป้งลงไปนั้น ต้องทำจนส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันเป็นเนื้อเดียว การผสมในขั้นนี้ ถ้าใช้เวลานานเกินไป จะทำให้คุกกี้เหนียว
  
• ควรหยอดคุกกี้ลงบนถาดทันทีหลังจากผสมเสร้จแล้ว เพราะถ้าทิ้งไว้นานจะทำให้น้ำระเหยออกหมด ทำให้คุกกี้มีเนื้อเหนียวขึ้น
  

การอบคุกกี้

• คุกกี้ที่มีขนาดเล็กและแบน จะใช้เวลาในการอบสั้น
• อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอบ คือ 180 - 200 องศาเซลเซียส
  
• ควรเอาคุกกี้ออกจากเตาอบทันทีที่สุก โดยสังเกตดูจากผิวคุกกี้ด้านบนและก้น จะเริ่มเป็นสีน้ำตาล
  
• ควรหยอด หรือทำให้แป้งคุกกี้มีขนาดเท่า ๆ กัน เพื่อให้สุกพร้อม ๆ กัน
  

การเก็บรักษาคุกกี้

• คุกกี้ทุกชนิด ยกเว้นคุกกี้แท่ง ควรจะเอาออกจากถาดทันทีในขณะที่ยังอุ่น ๆ อยู่ และนำมาพักรอให้เย็นบนตะแกรง ไม่ควรวางกองทับกัน อาจจะทำให้คุกกี้ติดกันและทำให้รูปร่างเสียหายได้
  
• การเก็บรักษาคุกกี้ที่มีเนื้อเหมือนเค้ก เช่น คุกกี้แท่ง หรือบราวนี่ ควรเก็บในภาชนะที่ปิดแน่น ส่วนคุกกี้ที่มีเนื้อกรอบ ควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดหลวม ๆ
  
• คุกกี้ที่เก็บไว้นานจนหายกรอบ สามารถนำไปอบใหม่โดยใช้อุณหภูมิขนาดปานกลาง หรือประมาณ 150 องศาเซลเซียส แต่อย่าอบนานเกินไปจนไหม้
  

ข้อผิดพลาดและวิธีแก้ไขในการทำคุกกี้

 Credit : เบเกอรี่และแต่งหน้าเค้ก โดย อ. จริยา เดชกุญชร

.......................

Find us on Google+

ประวัติของขนมมาการอง

อุปกรณ์เบเกอรี่เบื้องต้น

วิธีใช้และดูแลพิมพ์ซิลิโคน

ละลายช็อคด้วยไมโครเวฟ

กดลายคุกกี้ด้วยเซ็ทปั๊มคุกกี้